วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2559

มีข้อห้ามอะไรที่สำคัญในผู้ที่เคยมีหรือกำลังมีอาการผมร่วง ?

มีข้อห้ามอะไรที่สำคัญในผู้ที่เคยมีหรือกำลังมีอาการผมร่วง ?

1. ไม่แนะนำให้ใช้สารเคมีในการแต่งรูปทรงผม อาทิ เจล, แว็กซ์, น้ำมันแต่งผม อนุโลม ได้แต่เพียง มูสซ์ 

2. ไม่แนะนำให้ใช้สารเคมีกับหนังศีรษะ ไม่ว่าจะเป็น ย้อม, โกรก,ยืด, ดัด ข้อนี้ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 

3. การใช้ไดร์เป่าผม ไม่ควรใช้ลมร้อน 

4. สามารถสระผมได้ทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง 

5. ไม่ควรใช้ครีมนวดผม เพราะจะทำให้การรักษาหนังศีรษะมัน ทำได้ยากขึ้น

6. กรณีที่มีรังแคร่วมและใช้แชมพูอื่นที่รักษารังแคได้ดี ให้ใช้แชมพูเดิมต่อ
สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนที่เหลือให้ใช้แชมพูยา ที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ให้ไป

7. การกินอาหารเสริมหรือวิตามินร่วม ไม่ใช่ข้อห้าม แต่พึงระวัง วิตามินเอ และวิตามินอี ในปริมาณที่เกิดขนาดเพียงเล็กน้อย ทำให้ผมร่วงมากขึ้นอย่างง่ายดาย

8. อาหารที่มันมากไป และอาหารที่เค็มจัดทำให้ผมร่วงมากขึ้น ส่วนอาหารที่เผ็ด ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าทำให้ผมร่วงมากขึ้น

9. การใช้หวีซี่ห่างๆช่วยยืดอายุของรากผมได้อีกทั้งปลายซี่ที่มนยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดที่หนังศีรษะ

10. การนวดคลึงหนังศีรษะไม่ใช่ข้อห้าม แต่ไม่ควรทำมากไปในคนที่มีหนังศีรษะมัน ที่ยังควบคุมไม่ได้ เพราะการนวดจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันสร้างไขมันมามากขึ้น

11. อาหารประเภทโปรตีนจากพืชตระกูลถั่ว (Soy Protein) ในปริมาณที่สูงมากๆ สามารถทำให้ผมร่วงน้อยลง และผมดกขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อาทิ น้ำนมถั่วเหลืองในปริมาณที่สูงมากๆ

12. หากดื่มแอลกอฮอล์ ควรพอประมาณเพราะแอลกอฮอล์ที่สูงทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุที่สำคัญต่อการเติบโตของเส้นผมได้ลดลง เช่น สังกะสี (Zinc), วิตามินซี (Ascorbic acid), วิตามินบี, โฟลิค (ช่วยในเรื่องความเข้มของเลือด)

13. บุหรี่เป็นภัยอันร้ายกาจ ขัดขวางการเจริญเติบโตของเส้นผม ลดปริมาณออกซิเจนและเลือดไปเลี้ยงรากผม  




Finasteride กับการรักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน



Finasteride

ฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) ยานี้ออกฤทธิ์โดยการลดระดับฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดภาวะ ผมบาง ศีรษะล้าน แบบกรรมพันธุ์

DHTเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะ ผมบาง ศีรษะล้าน ได้อย่างไร?

   ภาวะ ศีรษะล้าน จากกรรมพันธุ์ จะเกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องมีองค์ประกอบ 2 ส่วน ด้วยกัน คือ

   1.กรรมพันธุ์หรือยีน ศีรษะล้าน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ

   2.ฮอร์โมนเพศชาย หรือ Testosterone (T)

   ฮอร์โมนเพศชาย ( T ) พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย ฮอร์โมนนี้ผลิตจากลูกอัณฑะ และต่อมหมวกไต แล้วจึงเข้าสู่กระแสเลือด ไหลเวียนไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกาย ที่หนังศีรษะฮอร์โมนนี้จะถูกเปลี่ยนไปเป็น DHT (Dihydrotestosterone) โดยเอนไซม์ ( enzyme) 5- alpha reductase ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

DHT จะจับกับเซลล์สร้างเส้นผม และออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นผมปกติ

   DHT จะจับกับเซลล์สร้างเส้นผม และออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นผมปกติ ทำให้เส้นผมใหม่ที่ขึ้นมาทดแทนเส้นผมเดิมที่ร่วงไป มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆเมื่ออายุมากขึ้น จนในที่สุดเกิดภาวะ ผมบาง และ ศีรษะล้าน ตามมา

ฮอร์โมนเพศชาย Testosterone ถูกเปลี่ยนไปเป็น DHT (Dihydrotestosterone)
DHT ทำให้เส้นผมเล็กลง

   ฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5- alpha-reductase ทำให้ระดับของ DHT ทั้งในกระแสเลือดและที่เซลล์สร้างเส้นผม ลดลงกว่า 60 % จึงช่วยป้องกันมิให้เส้นผมมีขนาดเล็กลงและยังอาจทำให้เส้นผมมีขนาดโตขึ้นได้ อีกด้วย

Finasteride ทำให้เส้นผมอ้วนขึ้น

   ผลการรักษามีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการตอบสนองของยาในแต่ละคน จากรายงานทางการแพทย์ระบุว่า ฟิแนสเทอไรด์ทำให้ผมหยุดร่วง และ/หรือ ผมขึ้นใหม่ได้อยู่ระหว่าง 66 -88% ฟิแนสเทอไรด์ นับเป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัยและได้ผลดี ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ คือ ความต้องการทางเพศและการแข็งตัวของอวัยวะเพศลดน้อยลง พบได้น้อยกว่า 2 % ผลข้างเคียงอื่นๆซึ่งพบได้รองลงมาคือ ปริมาณน้ำอสุจิลดน้อยลง เจ็บบริเวณเต้านมหรือเต้านมอาจโตขึ้นได้ อาการข้างเคียงต่างๆเหล่านี้จะกลับคืนเป็นปกติเมื่อหยุดใช้ยา หรืออาจหายไปได้เอง แม้ว่ายังกินยาอยู่ก็ตาม ยาตัวนี้ต้องใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจึงจะเห็นผล โดยทั่วไปแนะนำให้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ก่อนที่จะประเมินผลการรักษา และหากใช้ยาแล้วได้ผล จำเป็นต้องใช้อย่างต่อเนื่องตลอดไป เพราะหากหยุดยา เส้นผมที่งอกใหม่ และ/หรือ เส้นผมที่ควรจะหลุดร่วงไป (แต่ไม่ร่วงเพราะฤทธิ์ของยา) จะร่วงไปจนหมด แต่ยานี้ไม่มีผลทำให้ ผมร่วง มากขึ้นกว่าเดิมแต่อย่างใด

ยา Propecia     ฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) มีชื่อทางการค้าว่า  (เม็ดละ 1 มิลลิกรัม)รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละครั้ง ใช้ได้เฉพาะผู้ชาย ศีรษะล้าน ที่มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์เท่านั้น ยานี้ห้ามใช้ในผู้หญิง (เนื่องจากกลไกการเกิดศีรษะล้านในเพศหญิงต่างจากเพศชาย) เพราะ นอกจากจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว ยังอาจเกิดความผิดปกติของอวัยวะเพศของบุตรในครรภ์ได้ (หากรับประทานยาในขณะตั้งครรภ์) ควรใช้ยานี้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง

แต่ เนื่องจาก  Propecia มีราคาค่อนข้างแพง จึงหันไปใช้ Proscar ซึ่งเป็น Finasteride ขนาด 5 มิลลิกรัม ไว้สำหรับรักษามะเร็ง
ต่อมลูกหมาก เวลาจะใช้ ก็ทำการแบ่งเป็น 4 ส่วน กินวันละ ส่วน จะช่วยประหยัดตังได้มาก





ยาปลูกผม MINOXIDIL(ไมน๊อกซิดิล)


    Minoxidil

    พบว่า ในกลุ่มยาทาภายนอกที่เป็นที่นิยมและ FDA ของประเทศสหรัฐอเมริกา รับรองผลการรักษา คือ ยาทาภายนอกที่มีส่วนผสมของยา Minoxidil เราลองมาทำความรู้จักกับยาตัวนี้ กันหน่อยนะครับ

    - สาร Minoxidil เป็นสารที่พบว่าสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม เป็นอนุพันธ์ของสารพวก Piperidinopyrimidine ที่มีลักษณะเป็นผงสีค่อนข้างขาว ละลายได้ดีในอัลกอฮอล์( ประมาณ 15-30 มก.ต่อซีซี) สารนี้เมื่อผสมเป็นยาหรือโลชั่นแล้ว ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ( 15-30 องศาเซลเซียส) จะคงทนได้นานประมาณ 3 ป

    - กลไกการออกฤทธิ์ที่ทำให้เส้นผมและขนสามารถเจริญเติบโตได้ ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าไม่เกี่ยวกับฮอร์โมน ตามสมมุติฐานเชื่อว่า Minoxidil มีฤทธิ์ในการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตตรงกระเปาะผม จึงเพิ่มสารอาหารแก่เซลล์ผม ทำให้เซลล์ผมเกิดการแบ่งตัวเจริญเติบโตขึ้น ผมจึงมีการเปลี่ยนแปลงจากผมหรือขนเล็กๆ( vellus hair ) เป็นเส้นผม-ขนที่โตขึ้น ที่เรียกว่า terminal hair นอกจากนี้ยังเชื่อว่ายังออกฤทธิ์ในการยับยั้งอิทธิพลของฮอร์โมน Prostaglandin ที่เกี่ยวข้องกับวงจรชีวิตของเส้นผม

    - การได้ผลหลังจากทายาที่ผสม minoxidil ในแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสาร minoxidil ตัวทำละลาย และบางท่านอาจมีการผสมวิตามิน Retinoic acid ในส่วนประกอบ เพื่อช่วยให้การดูดซึมของยาminoxidil ดีขึ้น นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงระยะเวลาภายหลังเกิดปัญหา และความรุนแรงของปัญหาของแต่ละบุคคลด้วย

    - การใช้ประโยชน์ของยาทาภายนอก minoxidil สามารถใช้ทารักษาเพื่อให้ผมงอกได้ ทั้งจากปัญหากรรมพันธุ์ ฮอร์โมน 5-Dihydrotestosterone และปัญหาผมร่วงหย่อม( Alopecia areata) นอกจากนี้ยังใช้ป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผมในคนที่กำลังจะศีรษะล้านได้ด้วย โดยมีระยะเวลาในการเห็นผล ประมาณ 3 เดือนหลังจากทายา

    - การดูดซึมยาทาภายนอก minoxidil เข้าสู่ร่างกายจะมีปริมาณน้อยมาก จึงไม่เกิดอันตรายแต่อย่างใด แต่ไม่แนะนำให้รับประทานยา minoxidil เพราะจะมีผลต่อความดันโลหิตให้ลดลง ทำให้หน้ามืด วิงเวียนได้ง่าย นอกจากนี้ อาจมีผลต่อหัวใจในระยะยาวด้วย

    - การใช้ยาทาปลูกผม หรือขน หนวดเครา เมื่อเลิกใช้ เส้นผมและขน อาจจะกลับมาร่วงได้อีก ประมาณ 3 เดือนหลังหยุดยา ดังนั้นในรายที่ไม่สามารถ รับประทานยา Finasteride ได้ แต่ต้องการคงสภาพของเส้นผมไว้ จำเป็นต้องทาโลชั่นที่มี minoxidil ไว้ตลอดไป  
GOFFYMINOX.LNWSHOP.COM

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ความสำคัญของ ZINC กับการรักษาผมร่วง



    เพศชายสูญเสียปริมาณสังกะสีในร่างกายได้ง่าย ทุกครั้งที่มีการหลั่งน้ำอสุจิ สังกะสีปริมาณ 5 มิลลิกรัมจะถูกขับออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นปริมาณมากถึง 1 ใน 3 ของปริมาณสังกะสีที่ร่างกายต้องการต่อวัน ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดภาวะขาดธาตุสังกะสีได้ และผลเสียจากการที่ร่างกายขาดสังกะสี คือ มีโอกาสเป็นหมันสูง ความต้องการทางเพศลดลง สูญเสียสัมผัสรับรส และประสิทธิภาพการดมกลิ่น

    การทดสอบว่า คุณขาดสังกะสีหรือไม่นั้นทำได้โดยง่าย เพียงเหยาะยาละลาย ซิงก์ ซัลเฟต 5 มก. ลงในปาก ถ้าไม่สามารถรับรู้รสชาติใดเลย นั่นแสดงว่าคุณมีแนวโน้มที่จะขาดสังกะสี หากคุณรู้สึกเฝื่อนๆ แบบแร่ธาตุอมหวานปะแล่มๆ นั่นแสดงว่าระดับธาตุสังกะสีในร่างกายอยู่ระดับปานกลางกึ่งๆ ขาดสังกะสีเล็กน้อย แต่ถ้าหลังจากเทสต์ด้วย ซิงก์ ซัลเฟตแล้วรู้สึกแย่มากๆ คุณก็ดีใจได้เลย เพราะนั่นหมายถึงสังกะสีในร่างกายคุณอยู่ในระดับปกติดี

    อาหารเสริมสังกะสี ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นหมันได้ในบางกรณี และสังกะสีมีผลต่อการเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย เมื่อร่างกายแข็งแรง โอกาสที่จะเป็นหวัดก็ลดลง

    ปริมาณที่แนะนำต่อวัน
    - หากรับประทานในลักษณะอาหารเสริม แนะนำปริมาณ 10-25 มก. ต่อวัน
    - ในกรณีบรรเทาอาการหวัด รับประทานปริมาณ 20 มก. ต่อวัน วันละ 1-4 ครั้ง แต่ห้ามรับประทานติดต่อกันนานเกินไป

    คำแนะนำ
    - การรับประทานสังกะสีมากกว่าวันละ 25 มก. เป็นประจำ อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ และท้องผูก และไปขัดขวางกระบวนการเผาผลาญธาตุเหล็กและทองแดง สังกะสียังมีฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึมยาปฏิชีวนะเตตร้าซัยคลิน ดังนั้นหากต้องรับประทานยาดังกล่าวร่วมด้วย ควรทิ้งระยะห่างประมาณ 2-3 ชั่วโมง

    แหล่งที่มาจากอาหารธรรมชาติ
    - อาหารทะเล (โดยเฉพาะหอยนางรม) ถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืช และเนื้อสัตว์ 


    Biotin 

    ไบโอติน (biotin) เป็นวิตามินชนิดรับประทานเพื่อให้เส้นผมแข็งแรงได้เป็นอย่างดี ไบโอตินอยู่ในกลุ่มของวิตามินบีที่ละลายน้ำได้ดี ปกติเราได้รับไบโอตินจากสารอาหารธรรมชาติ ในไข่แดง ตับ บริวเวอร์ยีสต์ เชื้อแบคทีเรียในลำไส้ก็สามารถสร้างได้เองบางส่วน พบว่าคนที่ขาดไบโอตินจะมีปัญหาผมร่วง เล็บเปราะหักง่าย หรือผิวหนังอักเสบ

    Zinc

    สังกะสีพบได้ในเกือบจะทุกเซลล์ของร่างกาย และยังเป็นองค์ประกอบของเอ็นไซม์ต่างๆในร่างกาย
    สังกะสีมีความสำคัญต่อสุขภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในการรักษาแผล ช่วยเรื่องสวยเเข็งเเรงของเส้นผม ช่วยให้กระบวนการต่างๆในร่างกายเป็นได้อย่างปกติ ยังช่วยให้พัฒนาการในวัยเด็ก วัยหนุ่มสาว และการตั้งครรภ์เป็นไปตาม

    Horsetail

    ฮอสเทล (Horsetail) เป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญๆ มากมาย เช่น ซิลิคอน โปรแตสเซียม อลูมิเนียม แมงกานีส รวมไปถึง สารที่อยู่ในตระกูลฟลาโวนอยด์อีก 15 ชนิด หรือไบโอฟลาโวนอยด์
    ซิลิคอน จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) เช่น ผม เล็บ 

    ปัจจุบันได้มีการนำฮอสเทลสกัดมาผลิดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อช่วยในการบำรุงเส้นผมป้องกันผมร่วง ช่วยเร่งให้ผมขึ้นมาใหม่ ช่วยให้ความแข็งแรงแก่เส้นผมเพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นผม และยังทำให้เส้นผมที่แห้งกร้านกลับมีชีวิตชีวาสวยงามมากขึ้น ฮอสเทลสกัดจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับสุขภาพผม

    Brewer's Yeast

    Brewers yeast นอกจากจะเป็นแหล่งธรรมชาติของ vitamin B ทุกชนิดแล้ว (ยกเว้น B12) ยังอุดมไปด้วยโปรตีน (กรดอะมิโน 16 ชนิด) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ และเกลือแร่อีก 14 ชนิด ดังนั้น ประโยชน์ที่ได้รับนอกเหนือจากการได้รับ vit B complex แล้ว ยังได้รับผลจากสารอื่นๆเพิ่มมาด้วย ตย.เช่น biotin ซึ่งเป็น vit B ตัวหนึ่งที่ช่วยในการรักษาเบาหวานเนื่องจากช่วยเพิ่ม sensitivity ต่อ insulin และเพิ่ม glucokinase activity และที่สำคัญ biotin ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเล็บและเส้นผมด้วย

    Brewer's Yeast 


      บริเวอร์ยีสต์ ประกอบไปด้วยธาตุอาหารสมบูรณ์มากมาย มี กรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 16 ชนิดจากทั้งหมด 20 ชนิด เกลือแร่ 14 ชนิด และ วิตามิน อีก 17 ชนิด โดย บริเวอร์ยีสต์ เป็นแหล่งธรรมชาติที่ดีที่สุดของVitamin B-Complex ซึ่งประกอบไปด้วย B1 (thiamine), B2 (riboflavin), B3 (niacin), B5 (pantothenic acid), B6 (pyridoxine), B9 (folic acid) และ H (biotin) นอกจากนี้ยังมีเกลือแร่สูง คือ โครเมียม สังกะสี เหล็ก ฟอสฟอรัส และ เซเลเนียม อีกทั้ง บริเวอร์ยีสต์ ยังเป็นแหล่งที่สำคัญของโปรตีนอีกด้วย โดยประมาณว่าจะมีโปรตีนถึง 16 กรัมต่อปริมาณผงยีสต์ 30 กรัม

      Brewers yeast นอกจากจะเป็นแหล่งธรรมชาติของ vitamin B ทุกชนิดแล้ว (ยกเว้น B12) ยังอุดมไปด้วยโปรตีน (กรดอะมิโน 16 ชนิด) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ และเกลือแร่อีก 14 ชนิด ดังนั้น ประโยชน์ที่ได้รับนอกเหนือจากการได้รับ vit B complex แล้ว ยังได้รับผลจากสารอื่นๆเพิ่มมาด้วย ตย.เช่น biotin ซึ่งเป็น vit B ตัวหนึ่งที่ช่วยในการรักษาเบาหวานเนื่องจากช่วยเพิ่ม sensitivity ต่อ insulin และเพิ่ม glucokinase activity และที่สำคัญ biotin ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเล็บและเส้นผมด้วย

      และ chromium ที่มีอยู่ใน brewer's yeast มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น สามารถลด LDL และเพิ่ม HDL ในเลือด (ลดcholesterol ในเลือด) มีผลในการช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยในการรักษาสิว เป็นต้น